Edit title Here

Blogger templates

10/01/2555

นอริช ซิตี้ 2-5 ลิเวอร์พูล

นอริช ซิตี้ 2-5 ลิเวอร์พูล

เบรนแดน รอดเจอร์สตกอยู่ในความกดดันต้องพาทีมชนะนัดแรกให้ได้เสียทีโดยนัดนี้เขา ตัดสินใจพึ่งบริการนักเตะพลังหนุ่มอย่างอันเดร วิสดอมในตำแหน่งแบ็กขวา, ซูโซ่ กับราฮีม สเตอร์ลิ่ง คอยกระชากลากเลื้อยบริเวณริมเส้น 

ส่วนกองกลางนั้นนูริ ซาฮินที่กลางสัปดาห์เพิ่งเหมาคนเดียว 2 ประตูได้โอกาสลงมาทำเกมเคียงข้างสตีเว่น เจอร์ราร์ดและโจ อัลเลนส่วนหน้าที่ป่วนกองหลังตกเป็นของหลุยส์ ซัวเรซเหมือนเดิม 

ครึ่งแรก 

"หม่อมเหยิน"อย่างไวพาหงส์นำโคตรเร็ว 
เพียงแค่นาทีแรกของเกม"หงส์แดง"ก็ได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็วเมื่อเกล็น จอห์นสันลากบอลขึ้นมาริมเส้นด้านซ้ายก่อนจ่ายเข้าเขตโทษหวังให้นูริ ซาฮินที่แลปขึ้นมาแต่โดนสกัดออกมาได้แต่ดันมาเข้าทางหลุยส์ ซัวเรซที่ยืนรอหน้ากรอบเขตโทษแตะบอลหลบกองหลังหนึ่งจังหวะพร้อมตวัดด้วยขวา หน้ากรอบเขตโทษบอลเลียดย้อนศรพุ่งเข้าโคนเสาขวามือของจอห์น รัดดี้ที่พุ่งปัดไม่ถึงเป็นสกอร์นำให้ทีมเยือน 1-0 

ถัดจากนั้นเพียง 2 นาทีนูริ ซาฮินเปิดฟรีคิกจากด้านขวาเข้ามากลางประตูเข้าหัวแดเนี่ยล แอ็กเกอร์ก้มโหม่งข้ามคานออกไป 

นอริชโต้บ้างเรน่าบล็อกทัน 
มาถึงนาทีที่ 8 นอริชได้โอกาสลุ้นทำประตูบ้างเมื่อไซเมี่ยน แจ็คสันวิ่งขึ้นมาตรงกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนตวัดยิงเร็วเข้าทางเสาแรกแต่ เป็นเปเป้ เรน่าที่ยืนปิดมุมดีบล็อกบอลออกไปได้หวุดหวิด 

ชาตินี้ก็ไม่ได้ลูกโทษ! 
มาถึงนาทีที่ 21 "หม่อมเหยิน"อดได้จุดโทษอีกแล้วเมื่อหลุยส์ ซัวเรซบังบอลในกรอบเขตโทษก่อนจะง้างเท้ายิงแต่โดนลีออน บาร์เน็ตต์เบียดมาจากด้านหลังดันจนหน้าคะมำลงไปซึ่งจากภาพช้าน่าจะเป็นจุด โทษอย่างชัดเจนแต่กรรมการก็ยังใจแข็งไม่เป่าให้เป็นลูกจุดโทษแก่"หงส์ แดง"อีกแล้ว 

นกขมิ้นยิงแรงแต่แค่เสียว 
เจ้าถิ่นทำเกมโต้กลับมาทางด้านซ้ายอีกแล้วก่อนครอสบอลไปทางเสาสองให้แอน ดรูว์ เซอร์แมนโหม่งชงมาให้ไซเมี่ยน แจ็คสันยิงด้วยซ้ายเต็มข้อระยะประมาณ 12 หลาแต่บอลโด่งข้ามคานออกไป 

หัวขิงได้โหม่งรัดดี้เซฟเหลือเชื่อ 
ถึงนาทีที่ 33 ลิเวอร์พูลได้ลุ้นอย่างที่สุดเมื่อซูโซ่ทำชิ่งกับซัวเรซริมเส้นด้านซ้ายก่อน ที่"หม่อมเหยิน"จะลากบอลตัดมากลางสนามแล้วตวัดบอลโด่งข้ามหัวกองหลังให้สตี เว่น เจอร์ราร์ดที่พุ่งเข้าไปในกรอบเขตโทษได้โหม่งตรงกรอบแต่ไปติดเซฟของจอห์น รัดดี้ 

จังหวะถัดมานอริชได้โหมบุกขึ้นมาบ้างก่อนได้จังหวะยิงอยู่ 2-3 ครั้งจนกองหลังของ"หงส์แดง"ปั่นป่วนไปเหมือนกันแต่ยังไม่เสียประตู 

ซัวเรซปั่นไซร์หงส์ทะยาน 2-0 
นาทีที่ 37 หลุยส์ ซัวเรซ ได้รับบอลทะลุช่องจากกลางสนามไปดวลเดี่ยวกับรัดดี้แต่บรรจงแปบอลออกหลังไปหน้าตาเฉย 

จังหวะต่อเนื่องนอริชได้ตั้งเตะจากปากประตูรัดดี้ส่งบอลมาให้ไมเคิ่ล เทอร์เนอร์จับบอลไม่ดีและเป็นซัวเรซที่เพิ่งยิงออกไปจังหวะก่อนหน้าวิ่งแซง มาฉกบอลได้พร้อมจิ้มบอลลอดขาเทอร์เนอร์หนึ่งจังหวะและดีดด้วยหัวเกือกหน้า ปากเขตโทษบอลไซร้ก้อยพุ่งไปตุงตาข่ายเสาสองแบบงามหยดชนิดรัดดี้หมดปัญญา ป้องกันทำให้อาตันตุกะจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นำห่าง 2-0 

ครึ่งหลัง 

นกขมิ้นพลาดตีไข่แตกน่าเขกกะโหลก 
เริ่มเกมครึ่งหลังไม่กี่วินาทีสตีฟ มอร์ริสันลากเลื้อยผ่านเกล็น จอห์นสันมาถึงสุดเส้นด้านขวาก่อนตักมาให้ไซเมี่ยน เซอร์แมนวอลเล่ย์เต็มข้อบอลทำท่าจะเข้าประตูอยู่แล้วแต่ดันไปโดนโรเบิร์ต สน็อดกลาสส์ที่วิ่งมาเตรียมตัวซ้ำบอลเด้งข้ามคานไปอดได้ประตูตีไข่แตกสุด เหลือเชื่อ

ซาฮินอีกขอมั่ง!! 
น. 47 ราฮีม สเตอร์ลิ่งลากขึ้นมาในจังหวะโต้กลับก่อนส่งให้หลุยส์ ซัวเรซแตะเข้าไปด้านซ้ายในกรอบเขตโทษพร้อมตวัดบอลมากลางประตูกองหลังนอริ ชวิ่งมาเคลียร์ไม่ขาดบอลมาเข้าทาง"หม่อมเหยิน"อีกครั้งซึ่งเขาก็จับบอลก่อน จ่ายไปให้นูริ ซาฮินที่วิ่งเติมขึ้นมาเวลาเหมาะเหม็งแปบอลด้วยซ้ายระยะจ่อๆตุงตาข่ายมาถึง ตรงนี้"หงส์แดง"ทะยานนำ 3-0 แล้ว 

หลังเสียประตูที่ 3 เจ้าถิ่นไม่มีอะไรจะเสียตั้งหน้าตั้งตาบุกแหลกและเกือบได้ประตูตีเสมอหลายครั้งแต่บอลยังไม่ตรงกรอบอยู่เหมือนเดิม 

ซัวเรซแฮตทริก!!! 
มาถึงนาทีที่ 56 หลุยส์ ซัวเรซเอาแฮตทริกจากสนามแคร์โรลล์ โร้ดจนได้เมื่อเขาได้บอลอยู่หน้าปากเขตโทษด้านซ้ายก่อนตวัดยิงด้วยขวาบอล ปั่นโค้งเข้าเสาไกลอย่างสวยงามเป็นประตูพา"หงส์แดง"ขึ้นนำห่าง 4-0 

นกขมิ้นไม่ยอมทวงมา 1 ดอก 
นอริช ซิตี้บุกแหลกและทวงประตูตีไข่แตกจนได้เมื่อสตีฟ มอร์ริสันเก็บตกบอลกระฉอกจากลูกยิงของรัสเซลล์ มาร์ตินก่อนสับด้วยขวาเต็มข้อบอลผ่านมือของเปเป้ เรน่า สกอร์ขยับมาเป็น 4-1 แล้ว 

หัวขิงยิงแฉลบส่งหงส์ 5-1 
สตีเว่น เจอร์ราร์ดเปิดบอลทะลุช่องไปให้ราฮีม สเตอร์ลิ่งได้หลุดเข้ากรอบเขตโทษด้านขวาก่อนเจ้าหน้าวัย 17 ปีตวัดกลับมาให้กัปตันทีมที่วิ่งขึ้นมาหน้าวงกลมกรอบเขตโทษแปบอลด้วยขวาข้าง ถนัดบอลไปแฉลบกองหลังเปลี่ยนทางทำให้จอห์น รัดดี้เสียจังหวะกลับตัวไม่ทัน"หงส์แดง"ขึ้นนำห่างอีกครั้ง 5-1 

หงส์ผ่อนเกมโดนอีกลูก 
เข้าสู่ช่วง 5 นาทีสุดท้ายแกรนท์ โฮลท์ได้บอลหลุดมาทางนอกเขตโทษด้านซ้ายก่อนบรรจงยิงด้วยขวาบอลพุ่งผ่านมือเป เป้ เรน่าเข้าหน้าต่างเสา 2 ทำให้นอริชไล่ขึ้นมาเป็น 5-2 และจบการแข่งขันด้วยสกอร์นี้พร้อมขยับจากอันดับ 18 มาอยู่ที่ 14 ทันที 

ที่มา http://www.hugball.com/matchreport-Premier-League-Norwich-City-vs-Liverpool-5581.html

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น